วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

12 อาหารให้คุณสวยจากภายใน ศรีษะจรดปลายเท้า






       สุขภาพ ดีที่แท้จริงคือการมีอวัยวะต่างๆ ที่แข็งแรง ทำงานได้ดี และจะเป็นเช่นนั้นได้ จุดเริ่มต้นก็คืออาหารที่เรากินไปในแต่ละวัน ซึ่งอาหารแต่ละอย่างก็ดีต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายต่างกัน 
    กล้วย  บำรุงเส้นผมผมร่วง ผมบาง ต้องกินกล้วย เพราะอุดมด้วยวิตามินบีซึ่งช่วยบำรุงผมและป้องกันผมร่วงได้ดี ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของโพแทสเซียม ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก

    นม  บำรุงฟันและกระดูกสารอาหารสำคัญในการสร้างกระดูกก็คือแคลเซียม ซึ่งพบได้มากในนม แถมยังเป็นแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าแหล่งอื่นๆ
    ข้าวกล้อง  บำรุงสมองปกติ ข้าวกล้องดีต่อสุขภาพเพราะมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว จึงมีทั้งวิตามินบีรวม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ธาตุเหล็ก กากใย ฯลฯ แต่ตอนนี้ที่กระแสรักสุขภาพมาแรงทำให้เกิด ข้าวกล้องหอมมะลิเพาะงอก ที่มีสารกาบาสูง ซึ่งช่วยรักษาสมดุลสารสื่อสาร ลดความเครียดวิตกกังวล และป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

    ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่  บำรุงสายตาผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า แอนโทไซยานิน (Antho-cyanin) ซึ่งเป็นสารเม็ดสีในเบอร์รี่ช่วยให้มองเห็นชัดในที่มืด หรือที่ที่มีแสงสลัวๆได้ชัดเจนขึ้น และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเลนส์ตาและเส้นเลือดฝอยในลูกตาด้วย

    อะโวคาโด  บำรุงใบหน้าแม้เป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง แต่เป็นกรดไขมันโอเมก้า 9 ที่มีประโยชน์ ที่สำคัญวิตามินบี และอีในอะโวคาโดสามารถช่วยบำรุงผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และปกป้องผิวจากรังสีต่างๆ ในแสงแดด

    ปลาแซลมอน  บำรุงหัวใจ
มีโปรตีนคุณภาพเพียบ คอเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวต่ำ มีไขมันชนิดดี อย่างโอเมก้า 3 สูง ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดและภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ ชะลอการเติบโตของคราบไขมันในเส้นเลือด

    น้ำมันมะกอก  บำรุงหลอดเลือด
มีไขมันชนิดดี (HDL) อยู่สูง จึงช่วยขนถ่ายคอเลสเตอรอลจากเซลล์เข้าสู่ตับเพื่อเผาผลาญจึงไม่มีไขมันสะสม ที่สำคัญช่วยป้องกันการเกาะตัวของคอเลสเตอรอลที่บริเวณเยื่อบุผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ไม่เกิดเป็นเส้นเลือดอุดตัน

    กะหล่ำปลี  บำรุงทรวงอกงานวิจัยของสมาคมเพื่อการวิจัยมะเร็งของสหรัฐ พบว่า ผู้หญิงโปแลนด์ที่กินกะหล่ำปลีทั้งสดและดอง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 ครั้ง มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมลดลงถึง 75%

    ชาเขียว  บำรุงกระเพาะอาหารผลการวิจัยพบว่า ชาเขียวสามารถลดอัตราการเป็นมะเร็งของอวัยวะต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระประเภทฟลาโวนอยด์ที่ทรงพลังหลายชนิด ดื่มแล้วจึงสวยใสพร้อมสุขภาพดี

    พริกหยวก  บำรุงเล็บ
พริกหวานหลากสีสันล้วนอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและ กระตุ้นการเผาผลาญให้กับร่างกาย นอกจากนี้น้ำฉ่ำๆ จากพริกหยวกยังช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรงด้วย
    ถั่ว  บำรุงลำไส้ใหญ่
เป็นอาหารอีกประเภทที่มีโปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ และเส้นใยสูงมาก จึงสามารถช่วยจัดสมดุลของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี ทำให้ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ได้

    ผักโขม  บำรุงกระดูก
ผักโขมยังอุดมด้วยวิตามินเคที่ช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี และลดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักด้วย








ที่มา ... สุขภาพดี

4 สุดยอดน้ำสมุนไพรประโยชน์เพียบ


4 สุดยอดน้ำสมุนไพรประโยชน์เพียบ


     ปัจจุบันมีการนำสมุนไพรมาทำเป็นเครื่องดืมมากมาย ซึ่งน้ำสมุนไพรเหล่านี้ล้วนแต่มากประโยชน์


    1. น้ำใบบัวบก : 
น้ำ ใบบัวบกมีวิตามินเอสูงมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้สายตาทำงานหนักอยู่เป็นประจำ เพราะจะช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดี และยังมีแคลเซียมและวิตามินบี1 สูงกว่าผักชนิดอื่นอีกด้วย ประโยชน์อื่นๆ ของน้ำใบบัวบกคือ ใช้แก้ช้ำใน แก้ฟกช้ำดำเขียว แก้ร้อนใน บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ถ้าดื่มทุกวันเป็นเวลา 1 อาทิตย์จะช่วยลดความดันโลหิตได้ แก้แผลอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว ช่วยขับปัสสาวะ

    2. น้ำว่านหางจระเข้ : ประโยชน์ของว่านห่างจระเข้อยู่ที่วุ้นซึ่งมีประสิทธิภาพในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่อยู่รอบๆ แผล และถ้าเอาไปทานก็จะช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้หายอ่อนเพลีย ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ แต่เนื่องจากสารสำคัญในว่านหางจระเข้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้สดๆ ดังนั้นเมื่อตัดออกมาแล้วจึงควรใช้ทันที อย่าวางทิ้งไว้ และก่อนใช้ควรล้างยางสีเหลือๆ ออกให้หมดก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอาการคันหรือแพ้ในภายหลัง

    3. น้ำลูกเดือย : เป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส จึงช่วยบำรุงกระดูกได้ดี เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา ช่วยให้เจริญอาหารและเหมาะที่เป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น คนสมัยก่อนใช้น้ำลูกเดือยเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน บำรุงไต บำรุงกระเพาะอาหารและม้าม แก้อาหารคลื่นไส้อาเจียน และโรคท้องร่วงได้

    4. น้ำขิง : อุดมไปด้วยแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน สารเบต้าแคโรทีนในน้ำขิงสามารถช่วยต้านมะเร็งได้ และยังมีคุณสมบัติเป็นยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ คลื่นไส้อาเจียน เมารถหรือเมาเรือ ลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อย ทำให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น 




ที่มา รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและวิชาการดอทคอม
(เคล็ดลับสุขภาพ - beauty trips)